กล้วยไข่ สินค้าไฉไล ทำกำไรจากส่งออก

กล้วยไข่ พืชเกษตรส่งออก ที่มียอดการส่งออกกว่า 15,000 ตัน / ปี หรือราว ๆ 100 ล้านบาท / ปี กำลังเป็นที่นิยมมากในตลาดเพื่อนบ้านอย่าง จีน และ ฮ่องกง เนื่องจากรสชาติที่อร่อย หอมหวาน ทำให้ยอดการสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ การที่เกษตรกรหันมาปลูกกล้วยไข่ส่งออกเป็นการช่วยเรื่องเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้น แถมยังช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ถ้าเทียบดูจากความต้องการของตลาดส่งออกและตลาดในไทยกับผลผลิตแล้ว ยังถือว่าไม่เพียงพอต่อความต้องการ หากเกษตรกรที่กำลังมองหาแนวทางเพิ่มรายได้หรือกำลังตัดสินใจว่าจะปลูกพืชเกษตรตัวไหนอยู่ กล้วยไข่เป็นตัวเลือกหนึ่งแก่เกษตรกร เพราะปลูกง่าย แถมยังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกด้วย กล้วยไข่ มีแหล่งปลูกดังเดิมอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ แต่ในปัจจุบันนี้กลุ่มจังหวัดที่เป็นแหล่งปลูกเดิม ได้ลดจำนวนแปลงในการปลูกกล้วยไข่ลงเนื่องด้วยปัญหาพายุฝน แต่โชคดีที่จังหวัดทางภาคตะวันออก อย่างจันทบุรี ระยอง และตราด ได้หันมาปลูกกล้วยไข่มากขึ้น จึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดการส่งออกกล้วยไข่ของไทย การปลูกกล้วยไข่ สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ในประเทศไทย ส่วนวิธีการปลูกก็ไม่ได้ยุ่งยาก เพียงเลือกหน่อจากต้นที่ตัดเครือแล้วและเป็นหน่อที่มีใบแคบ จากนั้นให้เตรียมพื้นที่ปลูก โดยระยะที่เหมาะสมคือ 2 x 2 เมตร หรือ 2 x 3 เมตร ส่วนการขุดหลุมควรกว้าง 50 x 50 เซนติเมตร จากนั้นให้วางหน่อพันธุ์ในหลุมปลูก โดยจัดวางหน่อพันธุ์ให้ด้านที่ติดกับแม่พันธุ์อยู่ในทิศทางเดียวกัน กลบดินปากหลุมปลูกและกดดินให้แน่น บริเวณโคนต้น รดน้ำให้ชุมเป็นอันเสร็จ การดูแลรักษา พรวนดินหลังการปลูกประมาณ 1 เดือน จากนั้นให้ทำการพลิกดินให้ทั่วทั้งแปลงปลูก เพื่อให้ดินเก็บความชื้นจากน้ำฝนไว้ให้มากที่สุด และเป็นการกำจัดวัชพืชไปด้วย ขณะที่รากกล้วยยังขยายไปไม่มากนัก และตัดหน่อกล้วยที่งอกขึ้นมาใหม่ไม่ให้แย่งอาหารจากตัวแม่ ส่วนการเก็บเกี่ยว หลังจากวันตัดหัวปลี ให้ห่อผลไว้ให้เรียบร้อย นับอีก 30 วัน จะได้กล้วยไข่ที่มีคุณภาพเกรด A ควรเก็บเกี่ยวอย่างระมัดระวัง ใช้มีดสะอาดและคมตัดเครือกล้วยไม่ให้เครือกล้วยสัมผัสกับพื้นดิน ขนย้ายด้วยพาหนะที่สะอาดและมีวัสดุหนานิ่มรองเพื่อไม่ให้กล้วยช้ำ เพื่อคุณภาพที่ดีส่งตรงต่อผู้บริโภค เทคนิคลดต้นทุน ในการปลูกกล้วยไข่โดยการแต่งหน่อ หลังจากตัดหน่อที่ 1 ซึ่งจำหน่ายเครือแล้ว ให้ฟันตอแม่จากดินประมาณ 70 เซนติเมตร เจาะลำต้นบริเวณกลางลำต้นให้เป็นหลุม แบบหลุมขนมครก เพื่อใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ (ปุ๋ยสูตร 16-16-16) เพื่อบำรุงต้นที่ 2 (หน่อลูก) ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ/ต้น ส่วนโคนต้นใส่ขี้นกกระทาประมาณ 3 ขีด ช่วงนี้เร่งใส่ปุ๋ยสูตร 15-5-25 ประมาณ 200 กรัม/ต้น จนกล้วยออกปลีใช้เวลาประมาณ 15 วัน จนปลีกล้วยคลี่หมด เลือกหวีที่สมบูรณ์เอาไว้ ตัดลูกเล็ก (หวีเต่า) ออก เหลือหวีกล้วยที่มีคุณภาพประมาณ 5 หวี ใช้ถุงฟรอยด์ห่อกล้วย มันให้แน่นพอสมควร รดน้ำที่โคนต้นตามปกติ ต้นทุนในการปลูกกล้วยไข่แบบประหยัด ปุ๋ยขี้นก กิโลกรัมละ 7 บาท ต้นทุน 2.10 บาท 300 กรัม ปุ๋ยสูตร 16-16-16 กิโลกรัมละ 21 บาท ต้นทุน 2.10 บาท 100 กรัม ปุ๋ยสูตร 15-5-25 กิโลกรัมละ 21 บาท ต้นทุน 4.20 บาท 200 กรัม รวมต้นทุนปุ๋ยต้นละ 8.40 บาท / ต้น ขอบคุณข้อมูลจาก เกษตรกรก้าวหน้า แหล่งที่มา: http://news.mthai.com/hot-news/economy-news/occupation/461424.html
[fbcomments url="http://54.254.250.208/knowledge/%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%82%e0%b9%88-%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%84%e0%b8%89%e0%b9%84%e0%b8%a5-%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%81%e0%b8%b3/" width="375" count="off" num="3" title="แสดงความคิดเห็น" countmsg="wonderful comments!"]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save