ปลูกแตงโมนางย่อน รายได้เสริมของชาวคุระบุรี
12Apr,16
นายปริญญา ภูมิพาณิชย์ นายอำเภอคุระบุรี เปิดเผยว่า แตงโมนางย่อน คือแตงโมสายพันธุ์จินตรา ตอปิโด ธารโต และพันธุ์อื่นๆ ที่เกษตรกรนำมาปลูกแซมในส่วนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันที่มีอายุไม่เกิน 3 ปี ในอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา โดยผลผลิตที่ได้จะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อเพื่อส่งไปจำหน่ายยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เนื่องจากผลผลิตแตงโมในอำเภอคุระบุรีที่เรียกกันว่าแตงโมนางย่อน ซึ่งเป็นชื่อเดิมของอำเภอคุระบุรี นั้นมีรสชาติหวาน กรอบ อร่อยและปราศจากสารพิษตกค้าง
นายอุทัย ณ สูงเนิน ระบุว่า เกษตรกรในพื้นที่อำเภอคุระบุรี จะปลูกแตงโมเป็นพืชเสริมระหว่างแถวยางพาราและปาล์มน้ำมันที่ปลูกใหม่ ไม่เกิน 3 ปี โดยจะเริ่มปลูกในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ของทุกปีเพราะต้องอาศัยน้ำฝนและจะได้ลดต้นทุนการผลิตเรื่องการให้น้ำ ผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากที่สุดในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ส่วนในฤดูแล้งก็มีการปลูกตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน มีการปลูกบ้างแต่ไม่มากนัก
ปัจจุบันมีการปลูกแตงโมกระจายไปยังอำเภอใกล้เคียง เช่น ตะกั่วป่า ท้ายเหมือง ซึ่งสามารถสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรไม่น้อยกว่าปีละ 150 ล้านบาท โดยจังหวัดพังงามีพื้นที่ปลูกแตงโม จำนวน 4,704 ไร่ ผลผลิตรวม 15,000 กว่าตัน ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 10-14 บาท สามารถสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรปีละไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท ซึ่งประโยชน์ของการรับประทานแตงโมคือมีสารที่เรียกว่าไลโคปีนที่มีแอนตี้ออก ซิแดนท์ ช่วยในการบำรุงหัวใจ สารนี้มีอยู่มากในมะเขือเทศ แต่เมื่อเทียบกันแล้วแตงโมมีมากกว่าถึงร้อยละ 40 การดื่มน้ำแตงโมช่วยเพิ่มเบต้าแคโรทีนและเต็มไปด้วยโพแทสเซียมที่จะช่วยควบ คุมอัตราความดันโลหิตเรียกว่ากินแล้วจะอารมณ์ดี ยิ่งกินแบบเย็นๆ ยิ่งสบายใจ คลายความเครียดได้ดีเลยทีเดียว
ข้อมูลข่าว : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1448970874
นายอุทัย ณ สูงเนิน ระบุว่า เกษตรกรในพื้นที่อำเภอคุระบุรี จะปลูกแตงโมเป็นพืชเสริมระหว่างแถวยางพาราและปาล์มน้ำมันที่ปลูกใหม่ ไม่เกิน 3 ปี โดยจะเริ่มปลูกในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ของทุกปีเพราะต้องอาศัยน้ำฝนและจะได้ลดต้นทุนการผลิตเรื่องการให้น้ำ ผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากที่สุดในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ส่วนในฤดูแล้งก็มีการปลูกตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน มีการปลูกบ้างแต่ไม่มากนัก
ปัจจุบันมีการปลูกแตงโมกระจายไปยังอำเภอใกล้เคียง เช่น ตะกั่วป่า ท้ายเหมือง ซึ่งสามารถสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรไม่น้อยกว่าปีละ 150 ล้านบาท โดยจังหวัดพังงามีพื้นที่ปลูกแตงโม จำนวน 4,704 ไร่ ผลผลิตรวม 15,000 กว่าตัน ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 10-14 บาท สามารถสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรปีละไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท ซึ่งประโยชน์ของการรับประทานแตงโมคือมีสารที่เรียกว่าไลโคปีนที่มีแอนตี้ออก ซิแดนท์ ช่วยในการบำรุงหัวใจ สารนี้มีอยู่มากในมะเขือเทศ แต่เมื่อเทียบกันแล้วแตงโมมีมากกว่าถึงร้อยละ 40 การดื่มน้ำแตงโมช่วยเพิ่มเบต้าแคโรทีนและเต็มไปด้วยโพแทสเซียมที่จะช่วยควบ คุมอัตราความดันโลหิตเรียกว่ากินแล้วจะอารมณ์ดี ยิ่งกินแบบเย็นๆ ยิ่งสบายใจ คลายความเครียดได้ดีเลยทีเดียว
ข้อมูลข่าว : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1448970874
