ฟักทองแหล่งใหญ่ของประเทศ สร้างรายได้ต่อปีกว่า 100 ล้านบาท

Sorry, this entry is only available in Thai. For the sake of viewer convenience, the content is shown below in the alternative language. You may click the link to switch the active language.

>> ฟักทองแหล่งใหญ่ของประเทศที่นากระแซง จ.อุบลราชธานี สร้างรายได้ต่อปีกว่า 100 ล้านบาท ด้วยความที่เป็นพืชที่ทำอาหารได้หลากหลายทั้งคาว-หวาน จึงทำให้ฟักทองเป็นอีกพืชหนึ่งที่เกษตรกรให้ความสนใจในการปลูกกันมาก แหล่งปลูกฟักทองแหล่งใหญ่ของบ้านเรามีมากมายโดยเฉพาะภาคอีสาน เช่น ศรีสะเกษ สกลนคร ขอนแก่น อุบลราชธานี ภาคกลาง ก็เช่น ที่ กาญจนบุรี ราชบุรี ฉะเชิงเทรา ลพบุรี ภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ ภาคใต้ก็มีปลูกเช่นกัน แหล่งปลูกฟักทองแหล่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีแห่งหนึ่งก็คือ ต.นากระแซง อ.เดชอุดม pumpkin1 จ.อุบลราชธานี ที่นี่มีการปลูกฟักทองกันมาก จนทาง ต.นากระแซง ได้มีการจัดงานเพื่อส่งเสริมอาชีพของเกษตรกรขึ้น ชื่อว่า “บุญบักอื๋อใหญ่” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรกในปี 2554 การจัดงาน “บุญบักอื๋อใหญ่” นอกจากจะเป็นงานที่ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ฟักทองนากระแซงเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังทำให้เกษตรกรได้นำฟักทองจากสวนมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคโดยตรงอีกด้วย ฟักทองในนากระแซงนั้นเป็นพืชที่ชาวบ้านนิยมปลูกในฤดูแล้งหลังฤดูทำนาปีซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวบ้านที่นี่ ซึ่งนอกเหนือจากฟักทองแล้วก็จะมีพืชผักอื่นๆ ที่ชาวบ้านใช้เครื่องมือเกษตรกรลูกกัน อาทิเช่น พริก มะเขือ แตงโม แต่ที่นิยมมากที่สุดจะเป็นฟักทอง เพราะเป็นพืชที่ปลูกง่าย ได้ผลผลิตเร็ว อีกทั้งเรื่องของตลาดก็มีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่สวน ถ้าฟักทองราคาก็มีรายได้ก้อนโตได้ไม่ยาก บางปีฟักทองสร้างรายได้ สร้างฐานะให้กับชาวบ้านที่นี่อย่างมากทีเดียว ในแต่ละปีฟักทองสามารถทำรายได้ให้กับชาวตำบลนากระแซงนับ 100 ล้านบาทเลยทีเดียว และมีการกล่าวกันว่า กินฟักทองท้องถิ่นไหนก็ไม่อร่อยเหมือนกินฟักทองนากระแซง pumpkin3 วันนี้เราจะไปดูฟักทองที่นี่กัน ซึ่งมีการปลูกฟักทองสืบทอดกันมาหลายปีแล้ว คุณนัยนา เจริญภักดิ์ เป็นอีกคนหนึ่งที่ปลูกฟักทองหลังฤดูทำนา คุณนัยนา เล่าว่า ชาวบ้านที่นี่จะปลูกฟักทองกันตั้งแต่พื้นที่น้อยๆ 5 ไร่ไปจนถึงเกษตรกรรายใหญ่ปลูกเป็น 100 ไร่ เฉลี่ยแล้วเกษตรกรแต่ละรายจะปลูกกันประมาณ 20 ไร่ โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 13 จะปลูกเยอะกว่าพื้นที่อื่น คือประมาณ 70 ครัวเรือน คุณนัยนา บอกว่า โดยปกติแล้วที่นี่จะนิยมปลูกฟักทองกันช่วงเดือน พ.ย. และไปเก็บผลผลิตกันในเดือน ม.ค.อายุการเก็บฟักทองนั้นขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่ปลูก ถ้าเป็นพันธุ์เบา อายุเก็บเกี่ยวก็ 80-90 วัน พันธุ์หนักอายุเก็บเกี่ยว 110-120 วัน พันธุ์ที่นิยมปลูกกันก็จะมี ศรีเมือง 16 ทองอำไพ 342 ศิลาทอง ศิลาเพชร การปลูกฟักทองจะเริ่มจากการเตรียมดิน รองพื้นด้วยปุ๋ยคอก 1 ตันต่อไร่ จากนั้นนำเมล็ดพันธุ์ที่เตรียมไว้มาหยอดในหลุมโดย 1 ไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์ 1 กระป๋อง ระยะห่างต่อต้น 1.50 เมตร ระยะห่างของแถว 2 เมตร การให้ปุ๋ยจะดูจากสภาพความสมบูรณ์และเวลาว่างของชาวสวนจะใส่ทุกอาทิตย์ก็ได้หรือใส่ทุก 10 วันครั้งก็ได้ อย่างที่สวนคุณนัยนาจะใส่ทุก 15-20 วัน ใช้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ 15-15-15 รดน้ำตามทุกๆ 2 วันครั้ง อายุได้ 2 อาทิตย์เริ่มแตกใบอ่อนให้ฉีดพ่นปุ๋ยทางใบเพื่อบำรุงต้นและใบทุก 7-10 วันครั้ง เมื่อฟักทองอายุได้ 45 วัน ให้เปลี่ยนสูตรปุ๋ยเป็น13-13-21 ใส่ทุก 10 วันหรือ ทุก 15-20 วันก็ได้ โดยจะใช้ปุ๋ยสูตรนี้ไปจนกระทั่งเก็บเลย พร้อมกับฉีดพ่นฮอร์โมนบำรุงดอก ผล ต้นทุก 7-10 วัน เพื่อให้ฟักทองผลโต สวย pumpkin4 เมื่อฟักทองอายุได้ 75-80 วัน(ที่สวนปลูกพันธุ์ศรีเมือง) ก็จะสามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว โดยจะเก็บครั้งเดียวหมดทั้งแปลง ผลผลิตไร่หนึ่งได้ประมาณ 4-5 ตัน ถ้าเป็นพันธุ์อื่นซึ่งเป็นพันธุ์หนักผลผลิตจะเยอะกว่านี้คือประมาณ 5-6 ตันต่อไร่ ฟักทองที่นี่จะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่สวนเลย ลักษณะการซื้อขายก็จะมีอยู่ 2 อย่างคือซื้อเหมาทั้งไร่ๆ ละหมื่นขึ้นไปราคาตามท้องตลาด อีกอย่างเป็นการซื้อแบบชั่งน้ำหนัก ราคาเฉลี่ยตลอดทั้งปี อยู่ที่ 8-9 บาท/กก. บางช่วงเคยได้สูงสุด 10-20 บาท/กก.ก็มี เรียกว่าชาวสวนมีกำไรจากการขายฟักทองกันเป็นกอบเป็นกำ รายได้ต่อไร่ 40,000-50,000 บาท แต่ละคนปลูกกัน 10-20 ไร่ ก็มีรายได้กัน 4-5 แสนบาท ขณะที่ลงทุน 1-2 แสนบาท ยิ่งถ้าปลูกฟักทองในที่ดอนตอนที่มีผลผลิตน้อยยิ่งได้ราคา คุณนัยนา บอกว่า ชาวสวนที่ปลูกฟักทองแล้วขายได้ราคาได้ดีๆ จะเป็นคนที่ปลูกในพื้นที่ดอน ไม่มีน้ำท่วมขัง โดยเริ่มปลูกตั้งแต่เดือน ส.ค.-ก.ย. แล้วไปเก็บช่วงเดือน ต.ค.ไปจนถึงปลายเดือน พ.ย.ช่วงนี้จะได้ราคาที่ดี เพราะฟักทองจะออกก่อนช่วงที่ชาวบ้านจะปลูกกันเยอะหลังจากเกี่ยวข้าวเสร็จ จึงทำให้ผลผลิตออกมาประดังประเดกันเยอะในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามแม้จะมีผลผลิตออกมามากเพียงไร ทุกปีฟักทองก็ไม่เคยราคาตกต่ำ ราคาฟักทองยังอยู่ที่ 5-8 บาท/กก. มาตลอดหลายปี ชาวบ้านก็ยังมีกำไร สำหรับการลงทุนปลูกฟักทองคุณนัยนาบอกว่า ปกติแล้ว พื้นที่ 1 ไร่จะลงทุน 10,000-15,000 บาท ขึ้นอยู่กับปุ๋ยและยาที่เกษตรกรใช้กัน ฟักทองราคาดีชาวบ้านก็จะซื้อปุ๋ย-ยามาใส่ให้เยอะเพื่อบำรุงให้ฟักทองงาม ให้ผลผลิตสูง โดยปกติผลผลิตประมาณ 5 ตัน/ไร่ ข้อมูลเพิ่มเติม คุณนัยนา เจริญภักดิ์ 263 ม. 13 ต.นากระแซง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี โทร.089-6276855 แหล่งที่มา: http://www.vigotech.co.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=539799916&Ntype=8
[fbcomments url="http://54.254.250.208/en/knowledge/pumpkin/" width="375" count="off" num="3" title="Comments" countmsg="wonderful comments!"]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save