“หม่อน” ราคาดีกว่ายาง พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของภาคใต้

Sorry, this entry is only available in Thai. For the sake of viewer convenience, the content is shown below in the alternative language. You may click the link to switch the active language.

ถ้าพูดถึง หม่อน ทุกคนอาจจะรู้จักประโยชน์ของหม่อนเพียงแต่ว่าเป็นอาหารของหนอมไหมเท่านั้น แต่จริง ๆแล้วประโยชน์ของหม่อนไม่ใช่มีแค่ใบหม่อนที่ให้หนอนไหมกินเป็นอาหารเพื่อสร้างใยเท่านั้น เพราะลูกหม่อนก็มีประโยชน์มากมายโดยหม่อนมีชื่อฝรั่ง ๆว่า มัลเบอร์รี่ ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารเยอะมาก พร้อมกันนั้นยังมีประโยชน์ที่ช่วยรักษาและป้องกันโรคต่าง ๆ อาทิ ต้านอนุมูลอิสระ บำรุงโลหิต บำรุงสายตา ลดการเกิดโรคมะเร็ง ป้องกันโรคความสำเสื่อม เป็นต้น

หม่อนพืชเศษฐกิจตัวใหม่ที่น่าจับตามอง

โดยส่วนมากแล้วหลายคนก็คงคิดว่า ต้นหม่อน สามารถปลูกได้ที่ภาคเหนือและภาคอีสานเท่านั้นซึ่งในความเป็นจริงแล้วต้นหม่อนนั้นสามารถปลูกได้ทุกที่ของประเทศไทยแต่ที่ปลูกเยอะที่สุดจะเป็นภาคเหนือและภาคอีสานเพราะปลูกหม่อนเพื่อเอาใบหม่อนไปเลี้ยงหนอนไหม แต่ในปัจจุบันไม่ใช่แค่ปลูกเลี้ยงหนอนไหมแล้วเพราะในปัจจุบันมีความนิยมรับประทานลูกมัลเบอร์รี่หรือลูกหม่อนมากขึ้นซึ่งทำให้มีการส่งเสริมให้ปลูกมากขึ้นโดยเฉพาะภาคใต้ได้มีการส่งเสริมให้ปลูกเพื่อทดแทนยางที่มีราคาตกต่ำด้วย

การปลูกมัลเบอร์รี่หรือต้นหม่อน

การปลูก ต้นหม่อน นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมากหม่อนสามารถขึ้นได้ทุกสภาพดินแต่ทางที่ดีเป็นบริเวณที่ปลูกต้องไม่มีน้ำขัง และดินบริเวณนั้นสามารถระบายน้ำได้ดี การเพาะพันธุ์จะทำได้ 2 แบบด้วยกันคือ ใช้เมล็ดซึ่งต้องรอให้ลูกหม่อนแก่ก่อนแล้วถึงจะได้เมล็ดนำมาเพาะอีกทีนึง แต่วิธีนี้ไม่ค่อยนิยมซักเท่าไรจะนิยมขยายพันธุ์หม่อนด้วยการเสียบกินโดยเลือกต้นหม่อนที่มีสภาพสมบุรณ์แข็งแรงและเลือกกิ่งที่มีความสมบูรณ์มาปักชำลงดิน ไม่นานต้นหม่อนก็จะแตกใบอ่อนจนกระทั่งต้นหม่อนเริ่มมีใบเยอะขึ้นถึงนำต้นหม่อนไปปลูกในแปรงปลูกที่เตรียมไว้

ระยะห่างระหว่างแถวของต้นหม่อนอยู่ประมาณ 3 เมตร แต่ะระหว่างต้นประมาณ 1 เมตรก็เพียงพอแล้วสาเหตุที่ให้เหลือที่พื้นที่ระหว่างแถวกว้างนั้นก็เพราะว่าลักษณะกิ่งก้านของต้นหม่อนจะมีลักษณะที่ยาวซึ่งเราจะโน้มกิ่งก้านของต้นหม่อนเข้าหากันเป็นอุโมงค์ ข้อดีของการทำอย่างนี้ก็คือสามารถเก็บผลผลิตได้ง่ายขึ้นและยังช่วยกำจัดวัชพืชระหว่างแถวได้อีกวิธีหนึ่ง โดยต้นหม่อนสามารถให้ผลผลิตได้เมื่อายุครบ 8 เดือน จนถึง 1 ปี แต่ต้นหม่อนจะมีอายุสมบูรณ์เต็มที่อยู่ที่ 3 ปี

หม่อนเป็นพืชที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมสามารถปลูกได้ทั่วประเทศ

การดูแลรักษาต้นหม่อนนั้นไม่ยากเลยเพียงลดน้ำวันละครั้งก็เพียงพอแล้วแต่ถ้าวันไหนแดดจัดก็ควรรดน้ำเพิ่มเติมให้ดินมีความชุ่มชื้น และความใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอปุ่ยที่ใช้ควรจะเป็นปุ๋ยชีวภาพ ปุ๋ยคอก ซึ่งจะทำให้ดินร่วนซุยระบายน้ำได้ดี

การตลาดของต้นหม่อน

ต้นหม่อน ถือได้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่มีอนาคตอย่างมากและที่สำคัญสามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ของประเทศไทย โดยผลหม่อน ใบหม่อนสามารถแปรรูปได้หลายอย่าง หรือจะขายสดก็ได้โดยสนนราคาไม่ต่ำกว่า 50 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งราคานี้ดีกว่าราคายางในปัจจุบันเลยมีการส่งเสริมให้กับเกษตรกรทางภาคใต้ตั้งกลุ่มผู้ที่ปลูกหม่อนขึ้นมาก อีกสาเหตุหนึ่งที่ได้กล่าวไปแล้วคือต้นหม่อนสามารถแปรรูปได้หลายอย่าง อาทิ น้ำหม่อน ชาใบหม่อน แยมหม่อน ไวน์จากลูกหม่อน เป็นต้น ซึ่งราคาของผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปนี้มีราคาไม่สูงนักเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค แม้ว่าในปัจจุบันจะมีเกษตรกรหันมาปลูกหม่อนกันมากขึ้นแต่ก็ยังไม่พอต่อความต้องการของตลาดอยู่ดีนั้นเอง

ที่มา: http://www.thaiarcheep.com/หม่อน-ราคาดีกว่ายาง-พืชเ.html
[fbcomments url="http://54.254.250.208/en/knowledge/%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99-%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%b2%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%87-%e0%b8%9e%e0%b8%b7%e0%b8%8a/" width="375" count="off" num="3" title="Comments" countmsg="wonderful comments!"]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save