สุดยอดความคิด! สตูลคิดค้น “เมล่อนเขียนลายฟอสซิล” สร้างอัตลักษณ์ท้องถิ่นเพิ่มมูลค่าการขาย มีคนสนใจมาก ยอดขายถล่มทลาย

Sorry, this entry is only available in Thai. For the sake of viewer convenience, the content is shown below in the alternative language. You may click the link to switch the active language.

“ฉิม เมล่อน” เป็นแหล่งเรียนรู้การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน โดยพาะการปลูกผักและพืชที่ใช้เป็นอาหาร เนื่องจากประหยัดพื้นที่และไม่ปนเปื้อนกับสารเคมีต่างๆในดิน ทำให้ได้พืชผักที่สะอาด โดยเฉพาะเมล่อน ซึ่งเป็นผลไม้ทำเงินให้กับฟาร์มแห่งนี้ นาย ชยพัทธ์ หล่อสุพรรณพร อยู่บ้านเลขที่ 79 ม. 4 ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ซึ่งเริ่มต้นด้วยการปลูกเมล่อน พันธุ์คิโมจิ เพียงเพราะต้องการกลับมาอยู่เป็นเพื่อนพ่อแม่ที่อายุมากแล้ว ซึ่งได้เริ่มปลูกเมล่อน ตั้งแต่ปี 57 ซึ่งเมล่อนเป็นผลไม้ที่ต้องการดูแลเอาใจใส่ทำให้ผลผลิตที่ได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ซึ่งส่วนใหญ่มีการสั่งซื้อทางเฟสบุ๊ค สั่งจองเป็นของฝากผู้หลักผู้ใหญ่ ที่เคารพนับถือ รวมทั้งลูกค้าประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียก็เข้ามาจับจองหาซื้อไปเป็นของฝากเช่นกัน ความโดดเด่นของของเมล่อนที่ฟาร์มฉิมแห่งนี้คือ คือรสชาดหวาน กลิ่มหอมเนื้อนุ่มละเอียด หากจะให้รสชาดดียิ่งขึ้นต้องทิ้งไว้สัก5 วันถึง 2 สัปดาห์หลังตัดเสร็จก็จะยิ่งอร่อยมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปี 59 ทางฉิมเมล่อนได้สร้างความแปลกใหม่โดยการเขียนลายบนผลเมล่อน เพื่อสร้างอัตลักษณ์ให้กับท้องถิ่นชาวอ.ทุ่งหว้า เนื่องจากเป็นพื้นที่สตูลจีโอปาร์ค เป็นแหล่งฟอสซิลที่สำคัญของจ.สตูล จึงได้เชื่อมโยงกับอุทยานธรณีด้วยการวาดลวดลายฟอสซิล เป็นช้างสเตโกดอนและแอมโนนอย ซึ่งเป็นลายที่เพิ่มมูลค่าให้กับเมล่อนได้ถึงผลละ 100 บาท และหากมีการโพสเฟสต่อก็จะเพิ่มแค่ผลละ 50 บาท โดยการเขียนลายนั้นไม่เฉพาะแต่ลายฟอสซิลเท่านั้น ลูกค้าสามารถเลือกลายได้ แต่การเขียนลายก็เสี่ยงกับความเสียหาย เนื่องจากหากลงน้ำหนักมากจะส่งผลเสียต่อลูกได้เพราะต้องเขียนลายตั้งแต่เมล่อนผลอ่อนที่ยังไม่ขึ้นลายตามธรรมชาติ ระยะเวลาของเมล่อนคือ 85-90 วัน ราคาผลเล็กก.ก.ละ 150 บาท ขนาดกลาง 200 บาทและขนาดใหญ่ 200 กว่าบาท ซึ่งเมล่อนที่ปลูกขณะนี้มีอยู่ประมาณ 600 ต้น ต้องปลูกแบบหมุนเวียนจึงสามารถเก็บขายได้ตลอดทั้งปี ตลาดเมล่อนยังมีความต้องการที่ไม่สิ้นสุด แต่เพื่อเป็นการไม่ให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่มาเรียนรู้เสียเวลาหากเมล่อนยังไม่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตหรือไม่ได้ชิมเนื้อเมล่อน ทางฟาร์มก็มีการทำน้ำเมล่อนไว้จำหน่ายขวดละ 35 บาท นอกจากนี้ยังมีไอศครีมเมล่อนรสชาดหอมหวานอร่อยได้ลิ้มชิมรสอีกด้วย โดยคัดเลือกผลที่มีขนาดไม่สมบูรณ์มาทำน้ำเมล่อนและไอศรีม ซึ่งผลไม่สมบูรณ์ของตนคือไม่ได้ขนาดมาตรฐานเพราะฟาร์มฉิมเมล่อนคัดเฉพาะผลที่ได้มาตรฐานออกจำหน่ายเท่านั้น ฉิมเมล่อนต้องสวยตาและอร่อยลิ้นไปพร้อมๆกัน จุดเด่นของสวนนี้คือปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน แต่ใช้วัสดุแทนดินเช่นขุยมะพร้าว และมะพร้าวสับ ซึ่งให้คุณภาพและน้ำหนักเบากว่าดิน ปลูกแบบโรงเรือนปิดเพื่อควบคุมศัตรูพืชและอุณหภูมิให้เหมาะสม ซึ่งตนรู้สึกภูมิใจในความเป็นชาวอ.ทุ่งหว้าภูมิใจในความเป็นอุทยานธรณีที่ไม่เฉพาะซากฟอสซิลดึกดำบรรพ์เท่านั้นแต่หมายรวมไปถึงวิถีชุมชน ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น การท่องเที่ยวเพื่อให้ชาวบ้านได้มีรายได้ด้วย โดยเฉพาะที่ฟาร์มแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวและนักศึกษารวมทั้งประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 คณะ ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญในอ.ทุ่งหว้าอีกแห่งหนึ่งด้วย ที่มา: http://www.tnews.co.th/contents/331470
[fbcomments url="http://54.254.250.208/en/knowledge/%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%94%e0%b8%a2%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%84%e0%b8%b4%e0%b8%94-%e0%b8%aa%e0%b8%95%e0%b8%b9%e0%b8%a5%e0%b8%84%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%84/" width="375" count="off" num="3" title="Comments" countmsg="wonderful comments!"]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save