Auto Draft

มาปลูกมะม่วงคุณภาพกันเถอะ

Sorry, this entry is only available in Thai. For the sake of viewer convenience, the content is shown below in the alternative language. You may click the link to switch the active language.

เมื่อก่อนคนเราอยากกิน มะม่วง ที่มีผิวพรรณสวยงาม ไม่มีแมลงเจาะ ซึ่งแน่นอนว่าการปลูกตามธรรมชาติโดยไม่ใช้สารเคมีในการปลูกเลยนั้นจะทำได้ยากมาก แต่ใช่ว่าจะทำไม่ได้แต่การทำมะม่วงให้มีคุณภาพและปราศจากรอยกัดกินของแมลงนั้นต้องใช้การดูแลที่สม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเหตุผลให้เกษตรกรกันไปปลูกมะม่วงที่ใช้สารเคมี ผลลัพธ์ที่ได้ก็ตกอยู่ที่ผู้บริโภคเองที่ต้องรับสารเคมีจากการฉีดไล่ศัตรูพืชนั้นเอง

แต่ในปัจจุบันการปลูกมะม่วงเริ่มหันกลับมาปลูกมะม่วงคุณภาพและมะม่วงที่ปลอดจากสารเคมีกันมากขึ้นเนื่องจาก ผู้บริโภคมีความต้องการบริโภคผลไม้ที่ปลอดจากสารเคมีกันมากขึ้นนั้นเอง ถึงแม้ราคาจะแพงกว่ามะม่วงที่ใช้สารเคมี แต่กำลังซื้อก็ยังมีอย่างต่อเนื่องเช่นกัน การปลูกมะม่วงคุณภาพนั้นต้องเริ่มจากการเตรียมดินและเตรียมการปลูกที่ต้องเริ่มตั้งแต่เริ่มปลูก

การปลูก มะม่วงคุณภาพ นั้นจำเป็นต้องเริ่มวางแผนตั้งแต่เริ่มปลูก ตั้งแต่พื้นดิน ระยะการปลูกระหว่างต้นที่ต้องคิดเพื่อด้วยว่าเมื่อโตแล้วมะม่วงจะไม่เบียดกันเกินไป ระหว่างที่รอมะม่วงโตจนได้ผลผลิตก็ต้องมีการปลูกพืชแซมพร้อมกันนั้นก็ต้องมีการบำรุงดินอย่างสม่ำเสมอ เมื่อต้นมะม่วงได้รับปุ๋ยที่ดีปลอดจากสารพิษและได้น้ำอย่างต่อเนื่องแล้ว ความแข็งแรงของต้นมะม่วงจะมีมากขึ้นและทำให้มะม่วงสามารถต่อสู้กับโรคและแมลงที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน

เมื่อมะม่วงติดดออกออกผลเราควรหากระดาษมาหุ้มลูกมะม่วงเพื่อป้องกันแมลงและให้ผิวของมะม่วงเมื่อถึงช่วงเก็บผลผลิตจะได้ออกมาสวยและได้ราคา เหมือนกับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนมะม่วง ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่ร่วมกันปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองสีเหลืองนวล ส่งออกไปยังต่างประเทศและส่งขายในประเทศแน่นอนว่า มะม่วงน้ำดอกไม้ที่ดีจะเป็นมะม่วงที่มีคุณภาพผลใหญ่โตได้ขนาด ลักษณะได้สัดส่วนที่เหมาะสำหรับการส่งออก เรื่องของราคาของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนมะม่วงจาดอำเภอเชียงดาวนี้ได้ราคาสูงกว่าท้องตลาดอยู่มาก โดยปกติแล้วราคามะม่วงพันธุ์นี้จะอยู่ที่ 30 บาทต่อกิโลกรัม แต่สำหรับมะม่วงที่ออกจากที่นี่จะได้ราคาสูงถึง 60 บาทต่อกิโลกรัมเลยทีเดียว

ซึ่งการปลูก มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง นี้ได้รับการปลูกแบบคุณภาพเรียกว่าปลอดสารพิษทุกประการและได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานจีเอพี ซึ่งเป็นเครื่องการันตีว่ามะม่วงที่ออกจากแหล่งนี้เป็นมะม่วงที่มีคุณภาพ ผลผลิตต่อไร่จะได้มะม่วง3,000 กิโลกรัม ปีหนึ่งเก็บผลผลิตได้ 3-4 รุ่น ทำให้เกษตรกรมีรายได้อย่างสม่ำเสมอ

ส่วนเรื่องของการส่งออกมะม่วงไปยังต่างประเทศนั้นจะมีการนำมะม่วงที่เก็บผลผลิตนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดในห้องแล็บเพื่อเป็นการยืนยันคุณภาพ โดยตลาดที่ส่งออกไปจะมีทั้งในเอเชียอาทิญี่ปุ่น และยุโรป รัสเซีย เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวจะสามารถเก็บมะม่วงได้สูงถึง 200 ตัน ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับชาวสาวนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทเลยทีเดียว จะเห็นได้ว่าเมื่อเราตั้งใจทำอะไรซักอย่างถึงแม้จะยากลำบากกว่าการทำแบบปกติก็ตามแต่ผลลัพธ์ที่ได้มาก็คุ้มกับแรงที่เสียไปอย่างแน่นอน

ที่มา: http://www.thaiarcheep.com/20196.html

[fbcomments url="http://54.254.250.208/en/knowledge/%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%a1%e0%b8%b0%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8%93%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b9%80/" width="375" count="off" num="3" title="Comments" countmsg="wonderful comments!"]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save